| ||
วันที่ 15 กรกฎาคม 2548 เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2548 เพื่อแก้ไขจำนวน ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่กรรมการและพนักงาน ของบริษัทภายใต้โครงการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการและพนักงาน (ESOP) และการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบรษัทที่จะออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและแก่กรรมการและพนักงานของบริษัท เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (บริษัท) ได้แจ้งมติของ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2548 ต่อตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยนั้น บริษัทขอแก้ไขข้อมูลดังต่อไปนี้.- 1)จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่กรรมการและพนักงาน ของบริษัทภายใต้โครงการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่กรรมการและพนักงาน (ESOP) จากเดิมจำนวน 10,000,000 (สิบล้าน) หน่วย แก้ไขเป็นจำนวนไม่เกิน 8,760,000 (แปดล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) หน่วย ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้การออกเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่กรรมการและพนักงานดังกล่าวมีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น ของบริษัทมากกว่ากรณีทั่วไป โดยอิงตามเกณฑ์ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ 2) การเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิมจำนวน 135,000,000 (หนึ่งร้อยสามสิบห้าล้าน) บาท แบ่งออกเป็น หุ้นสามัญจำนวน 135,000,000 (หนึ่งร้อยสามสิบห้าล้าน) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท แก้ไขเป็นจำนวน 133,760,000 (หนึ่งร้อยสามสิบสามล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 133,760,000 (หนึ่งร้อยสามสิบสามล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาทเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซึ่งจะออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและแก่กรรมการและพนักงานของบริษัท 3) การแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจด ทะเบียน (ที่ได้แก้ไขใหม่) จากข้อความเดิม ข้อ 4 ทุนจดทะเบียนจำนวน : 385,000,000 (สามร้อยแปดสิบห้าล้าน) บาท แบ่งออกเป็น : 385,000,000 (สามร้อยแปดสิบห้าล้าน) หุ้น มูลค่าหุ้นละ : 1 (หนึ่ง) บาท โดยแบ่งออกเป็น หุ้นสามัญ : 385,000,000 (สามร้อยแปดสิบห้าล้าน) หุ้น หุ้นบุริมสิทธิ : -ไม่มี- แก้ไขเป็นข้อความดังนี้ ข้อ 4 ทุนจดทะเบียนจำนวน : 383,760,000 (สามร้อยแปดสิบสามล้านเจ็ดแสน หกหมื่น) บาท แบ่งออกเป็น : 383,760,000 (สามร้อยแปดสิบสามล้านเจ็ดแสน หกหมื่น) หุ้น มูลค่าหุ้นละ : 1 (หนึ่ง) บาท โดยแบ่งออกเป็น หุ้นสามัญ : 383,760,000 (สามร้อยแปดสิบสามล้านเจ็ดแสน หกหมื่น) หุ้น หุ้นบุริมสิทธิ : -ไม่มี- 4)การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากเดิมจำนวน 135,000,000 (หนึ่งร้อยสามสิบห้าล้าน) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท แก้ไขเป็นจำนวน 133,760,000 (หนึ่งร้อยสามสิบสามล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทซึ่งจะออก และเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและแก่กรรมการและพนักงานของบริษัท ในการนี้บริษัทจึงขอแจ้งมติของที่ประชุมที่ได้แก้ไขแล้วดังต่อไปนี้.- 1. มีมติอนุมัติรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2548 2. มีมติอนุมัติให้บริษัทขายหุ้นสามัญที่บริษัทถือในบริษัท อาหารเลิศไทย จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปแช่แข็งให้แก่บริษัท สมายล์ ฮาร์ท ฟู้ดส์ จำกัด จำนวน 155,000 (หนึ่งแสนห้าหมื่นห้าพัน) หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 41.33 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งชำระแล้วของบริษัท อาหารเลิศไทย จำกัด จำนวน 375,000 (สามแสนเจ็ดหมื่นห้าพัน) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 (หนึ่งร้อย) บาท โดยมีมูลค่าขาย 3,100,000 (สามล้านหนึ่งแสน) บาท ทั้งนี้ บริษัทจะได้รับชำระเงินค่าหุ้นครบจำนวนในวันที่ 18 กรกฎาคม 2548 ซึ่งการขายหุ้นดังกล่าว จะมีผลทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทในบริษัท อาหารเลิศไทย จำกัด ลดลงจากร้อยละ 41.33 เหลือร้อยละ 0.00 เหตุผลที่มีการจำหน่ายหุ้นใน บริษัท อาหารเลิศไทย จำกัด เนื่องจากการลงทุน ดังกล่าวไม่เอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ถ้าบริษัทเก็บหุ้นไว้ต่อไปอาจจะมีผลขาดทุน เกิดขึ้นมากกว่าปัจจุบัน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 บริษัท อาหารเลิศไทย จำกัด มีผลขาดทุนจากดำเนินงานเท่ากับ 36.36 ล้านบาท มูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 0.35 บาทต่อหุ้น ในการประเมินมูลค่าหุ้นของบริษัท อาหารเลิศไทย จำกัด บริษัทได้ประเมินมูลค่าของหุ้นดังกล่าว ตาม มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัท อาหารเลิศไทย จำกัด ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ บริษัทได้จำหน่ายไป ในการนี้ขนาดของรายการดังกล่าวมีมูลค่าเท่ากับร้อยละ 2.65 ซึ่งเป็นมูลค่ามากที่สุดจากการคำนวณ เปรียบเทียบกับมูลค่าอ้างอิงต่าง ๆ โดยใช้ตัวเลขตามงบการเงิน ณ วันที่ 30 มีนาคม 2548 และเนื่องจากขนาดของรายการมีมูลค่าต่ำ บริษัทจึงไม่อยู่ภายใต้เกณฑ์เรื่องการเปิดเผยข้อมูล และการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ นอกจากนี้แล้ว บริษัท สมายล์ ฮาร์ท ฟู้ดส์ จำกัด ไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท ดังนั้นบริษัท จึงไม่อยู่ภายใต้เกณฑ์เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียน ในรายการที่เกี่ยวโยงกัน 3. มีมติอนุมัติให้บริษัทเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทจากเดิมมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 (สิบ) บาท เป็นหุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท โดยทุนจดทะเบียนของบริษัทจะคงเดิมคือ 250,000,000 (สองร้อยห้าสิบล้าน) บาท แต่หุ้นสามัญเพิ่มขึ้นจาก 25,000,000 (ยี่สิบห้าล้าน) หุ้น เป็น 250,000,000 (สองร้อยห้าสิบล้าน) หุ้น 4. มีมติอนุมัติให้บริษัทแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการ เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทเป็นข้อความดังนี้ ข้อ 4 ทุนจดทะเบียนจำนวน : 250,000,000 (สองร้อยห้าสิบล้าน) บาท แบ่งออกเป็น : 250,000,000 (สองร้อยห้าสิบล้าน) หุ้น มูลค่าหุ้นละ : 1 (หนึ่ง) บาท โดยแบ่งออกเป็น หุ้นสามัญ : 250,000,000 (สองร้อยห้าสิบล้าน) หุ้น หุ้นบุริมสิทธิ : -ไม่มี- 5. มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 125,000,000 (หนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้าน) หน่วย โดยไม่คิดมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทโดยมีราย ละเอียดเบื้องต้นของใบสำคัญแสดงสิทธิ ดังนี้ ประเภท : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ชนิด : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทชนิดระบุชื่อผู้ถือและโอนเปลี่ยนมือได้ อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ : 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ : 125,000,000 (หนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้าน) หน่วย ราคาเสนอขายต่อหน่วย : หน่วยละ 0 (ศูนย์) บาท วิธีการเสนอขาย : เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ในวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นของบริษัทโดยจะกำหนดภายหลังจากที่ได้รับอนุญาตให้ออกและ เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในอัตรา ส่วน 2 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ (ในกรณีที่มีเศษให้ปัดเศษทิ้ง) จำนวนหุ้นสามัญที่สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ : 125,000,000 (หนึ่งร้อย ยี่สิบห้าล้าน) หุ้น คิดเป็นร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำนวน 250,000,000 (สองร้อยห้าสิบล้าน) หุ้น (หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของ บริษัทเป็นหุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท ซึ่งมีผลทำให้จำนวนหุ้นสามัญของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 250,000,000 (สอง ร้อยห้าสิบล้าน) หุ้น) โดยจำนวนหุ้นที่สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องมี จำนวนไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศคณะ กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกำหนด อัตราการใช้สิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 (หนึ่ง) หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 (หนึ่ง) หุ้น โดยอัตราการใช้ สิทธิอาจเปลี่ยนแปลงในภายหลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิได้ ราคาใช้สิทธิ : 1.50 (หนึ่งบาทห้าสิบสตางค์) บาท ต่อหุ้นสามัญ 1 (หนึ่ง) หุ้น (หลังจากมีการเปลี่ยน แปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท) โดยราคาการใช้สิทธิอาจเปลี่ยน แปลงในภายหลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิได้ ระยะเวลาการใช้สิทธิ : ภายหลังจากครบกำหนด 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ผู้ถือใบ สำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิได้ในวันทำการสุดท้ายของเดือนมิถุนายน และเดือนธันวาคมของแต่ละปี ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ ในกรณีที่วันใช้สิทธิดังกล่าวตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทให้เลื่อน วันใช้สิทธิเป็นวันทำการถัดไป ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทมีสิทธิกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ได้ตามที่เห็นสมควรภายหลังจากที่ได้รับอนุญาตให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ วันสิ้นสุดการใช้สิทธิ : 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย : ไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ระยะเวลาการเสนอขาย : การจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจะกระทำให้แล้วเสร็จภาย ในหกเดือนนับแต่วันที่บริษัทได้รับแจ้งผลการอนุญาตให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจากสำนัก งานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือภายในกำหนดระยะเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ซึ่งจะต้องไม่เกินสิบสองเดือนนับแต่วัน ที่บริษัทได้รับแจ้งผลการอนุญาต ตลาดรองของใบสำคัญแสดงสิทธิ : บริษัทจะนำใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ไป จดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดรองของหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ : บริษัทจะนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิตามใบ สำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย เงื่อนไขอื่น ๆ : ให้คณะกรรมการบริษัทและ/หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย ดำเนินการขออนุญาตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้มีอำนาจดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องทุกประการ รวมทั้งมีอำนาจกำหนด และ/หรือแก้ไขเพิ่มเติม หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีอำนาจในการพิจารณาข้อกำหนด เงื่อนไขและรายละเอียดในการเสนอขายต่าง ๆ เกี่ยวกับ ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวข้างต้น รวมถึงเหตุให้ต้องออกหุ้นใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงราคาการ ใช้สิทธิ และ/หรืออัตราการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่เห็นสมควรภายใต้ข้อกฎหมายและประกาศ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง 6. มีมติอนุมัติการออกและเสนอใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่กรรมการหรือ พนักงานของบริษัท ภายใต้โครงการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่กรรมการและพนักงาน (ESOP) จำนวนไม่เกิน 8,760,000 (แปดล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) หน่วย โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้ ประเภท : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ชนิด : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทชนิดระบุชื่อผู้ถือและห้ามโอนเปลี่ยนมือเว้น แต่เป็นการตกทอดทางมรดก ในกรณีที่กรรมการและ/หรือพนักงานของบริษัทถึงแก่กรรม อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ : 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ : ไม่เกิน 8,760,000 (แปดล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) หน่วย ราคาเสนอขายต่อหน่วย : หน่วยละ 0 (ศูนย์) บาท จำนวนหุ้นสามัญที่สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ : ไม่เกิน 8,760,000 (แปด ล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.50 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทจำนวน 250,000,000 (สองร้อยห้าสิบล้าน) หุ้น (หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของ บริษัทเป็นหุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท ซึ่งมีผลทำให้จำนวนหุ้นสามัญของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 250,000,000 (สอง ร้อยห้าสิบล้าน) หุ้น) ทั้งนี้ เมื่อรวมกับหุ้นที่บริษัทเสนอขายต่อกรรมการหรือพนักงานโดยตรงในระยะห้าปี ย้อนหลังก่อนการยื่นคำขออนุญาตในครั้งนี้ จะมีจำนวนไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว ทั้งหมด ณ วันที่ยื่นคำขอ อัตราการใช้สิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 (หนึ่ง) หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 (หนึ่ง) หุ้น โดยอัตราการใช้ สิทธิอาจเปลี่ยนแปลงในภายหลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิได้ ราคาใช้สิทธิ : 1.50 (หนึ่งบาทห้าสิบสตางค์) บาทต่อหุ้นสามัญ 1 (หนึ่ง) หุ้น (หลังจากมีการเปลี่ยน แปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท) โดยราคาการใช้สิทธิอาจเปลี่ยน แปลงในภายหลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิได้ ระยะเวลาการใช้สิทธิ : ภายหลังจากครบกำหนด 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ผู้ถือใบ สำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิได้ในวันทำการสุดท้ายของเดือนมิถุนายน และเดือนธันวาคมของแต่ละปี ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ ในกรณีที่วันใช้สิทธิดังกล่าวตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทให้เลื่อน วันใช้สิทธิเป็นวันทำการถัดไป ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทมีสิทธิกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ได้ตามที่เห็นสมควรภายหลังจากที่ได้รับอนุญาตให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ วันสิ้นสุดการใช้สิทธิ : 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย : ไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ระยะเวลาการเสนอขาย : การจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัทจะ กระทำให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่บริษัทได้รับอนุญาตให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดรองของใบสำคัญแสดงสิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกให้แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัท ในครั้งนี้จะไม่นำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดรองของหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ : บริษัทจะนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิตามใบ สำคัญแสดงสิทธิที่ออกให้แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัทในครั้งนี้เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 7. มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 133,760,000 (หนึ่งร้อยสามสิบสามล้านเจ็ดแสนหก หมื่น) บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 133,760,000 (หนึ่งร้อยสามสิบสามล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 250,000,000 (สองร้อยห้าสิบล้าน) บาท (หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท ซึ่งมีผลทำให้จำนวนหุ้นสามัญของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 250,000,000 (สองร้อยห้าสิบล้าน) หุ้น) เป็นทุน จดทะเบียนใหม่จำนวน 383,760,000 (สามร้อยแปดสิบสามล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) บาท แบ่งออกเป็น หุ้นสามัญจำนวน 383,760,000 (สามร้อยแปดสิบห้าสามล้านเจ็ดแสนหกหมื่น) หุ้น มูลค่าที่ตรา ไว้ หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทซึ่งจะออก และเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและแก่กรรมการและพนักงานของบริษัท 8. มีมติอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4. ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุน จดทะเบียนเป็นข้อความดังนี้ ข้อ 4 ทุนจดทะเบียนจำนวน : 383,760,000 (สามร้อยแปดสิบสามล้านเจ็ดแสน หกหมื่น) บาท แบ่งออกเป็น : 383,760,000 (สามร้อยแปดสิบสามล้านเจ็ดแสน หกหมื่น) หุ้น มูลค่าหุ้นละ : 1 (หนึ่ง) บาท โดยแบ่งออกเป็น หุ้นสามัญ : 383,760,000 (สามร้อยแปดสิบสามล้านเจ็ดแสน หกหมื่น) หุ้น หุ้นบุริมสิทธิ : -ไม่มี- 9. มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 133,760,000 (หนึ่งร้อยสามสิบสามล้านเจ็ดแสนหก หมื่น) หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อ หุ้นสามัญของบริษัทซึ่งจะออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและแก่กรรมการและพนักงานของ บริษัท 10. มีมติอนุมัติแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ แคปปิตอล แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในการออกและเสนอขาย ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทซึ่งจะออกและเสนอขาย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและแก่กรรมการและพนักงานของบริษัท 11. มีมติอนุมัติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2548 ในวันที่ 11 สิงหาคม 2548 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 69/5 หมู่ที่ 5 ถนนพระราม 2 ตำบลบางขันแตก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีระเบียบวาระการประชุม ดังต่อไปนี้ วาระที่ 1 : พิจารณารับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีครั้งที่ 1/2548 วาระที่ 2 : พิจารณาอนุมัติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทจากมูลค่าที่ตรา ไว้หุ้นละ 10 (สิบ) บาท เป็นหุ้นละ 1 (หนึ่ง) บาท วาระที่ 3 : พิจารณาอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 เพื่อให้สอด คล้องกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท วาระที่ 4 : พิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือ หุ้นเดิม วาระที่ 5 : พิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญให้แก่ กรรมการและพนักงานของบริษัท วาระที่ 6 : พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท เพื่อรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้น สามัญของบริษัทจากใบสำคัญแสดงสิทธิ วาระที่ 7 : พิจารณาอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้อง กับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท วาระที่ 8 : พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทซึ่งจะออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและแก่กรรมการและพนักงานของ บริษัท วาระที่ 9 : พิจารณาอนุมัติแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ แคปปิตอล แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็น ที่ปรึกษาทางการเงินในการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทซึ่งจะออก และเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและแก่กรรมการและพนักงานของบริษัท วาระที่ 10 : พิจารณาเรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี) 12. มีมติอนุมัติกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2548 ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2548 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าการประชุมวิสามัญ ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในวันที่ 11 สิงหาคม 2548 จะแล้วเสร็จ จึงเรียนมาเพื่อทราบ (นายอนุโรจน์ เสนีย์ประกรณ์ไกร) ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ |